กาญจนบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดใกล้กรุงเทพที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไปได้บ่อยๆ เพราะมีเที่ยวมากมายไม่ต้องไปซ้ำ ทั้งอุทยานแห่งชาติ น้ำตก เขื่อน ที่ปีนเขา ชายแดนพม่า และยังอัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ตั้งแต่โบราณจนถึงการเป็นจุดยุทศาสตร์สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เฉพาะแค่ในตัวอำเภอเมืองกาญฯก็มีที่เที่ยวมากมายให้เราไปพักผ่อนแล้ว
ตามมาดูกันว่าในอำเภอเมืองกาญฯจะมีที่เที่ยวไหน ต้องไม่พลาดบ้าง
1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว
“สะพานข้ามแม่น้ำแคว” หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของอำเภอเมืองกาญจนบุรีที่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักกันอย่างแน่นอน โดยจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่สำหรับรถไฟ มีโครงสร้างเหล็กครึ่งวงกลม สลับโครงสร้างถักสไตล์โบราณๆ ทั้งยังเป็นหนึ่งในเส้นทางประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ที่สำคัญในปัจจุบันก็ยังคงเป็นเส้นทางที่ยังคงมีการสัญจรของรถไฟตามปกติด้วย
2. BARME Tea&Taste บารมี ทีแอนด์เทสต์
BARME Tea&Taste เป็นคาเฟ่บนเนินเขา ที่มีโซนให้ถ่ายรูปมากมายทั้ง indoor และ outdoor แบบสวยทุกมุม อัพ social ได้แบบรัวๆ ชมวิว มุมสูง กว้างไกล ทั้งสายน้ำและทิวเขาแบบ 180 องศา
3. สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
4. พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก
JEATH War Museum หรือ พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก เป็นพิพิธภัณฑ์กระท่อมไม้ไผ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จำลองค่ายเชลยศึก ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ ตามประวัติการก่อสร้างแล้ว ที่นี่เกิดขึ้นโดยเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงครามและเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี จึงตั้งอยู่ข้างวัด เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2520
5. Z2 See through Cafe
คาเฟ่สวยสุดฮิตเปิดใหม่เมื่อปี 2020 ตั้งอยู่ใกล้ๆสะพานข้ามแม่น้ำแควจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ติดแม่น้ำเลย แต่ตกแต่งเป็นธีมทะเล แบบมาเต็ม ทั้งต้นมะพร้าว ทั้งร่มและเตียงชายหาย แถมมีสระว่ายน้ำเป็นพร้อพเก๋ๆให้ด้วยถึงสองสระ มาพร้อมเมนูเครื่องดื่มและอาหารคาวหวานสุดครีเอท น่ารักน่าทานมากๆ ใครจะมาเที่ยวกาญฯไม่แวะไม่ได้แล้ว
6. West Wonder Water Park
West Wonder Waterpark เป็นสวนน้ำที่ทำได้มาตรฐานสากลในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นมากกว่าการเล่นน้ำธรรมดาเพราะมีเครื่องเล่นให้เล่นได้สนุกสนานหลายอย่าง บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ใจกลางเมืองกาญจนบุรี แถมภูมิทัศน์ของที่นี่ จัดให้แวดล้อมด้วยต้นไม้ ธรรมชาติ สีเขียว ช่วยให้สบายตา แม้พาลูกหลานไปเล่นน้ำแต่ไม่อยากลงน้ำก็ยังมีที่พักผ่อน พักสายตา บรรยากาศดีๆ
7. Kan Machi Cafe
8. โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี
“โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี” นั้นตั้งอยู่บริเวณริมถนนแสงชูโต ในแถบตัวเมืองกาญจนบุรี ปัจจุบันเปิดทำการแล้ว แซึ่งเคยรุ่งเรืองจนเป็นโรงงานการกระดาษแห่งที่ 2 ของประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 70ไร่ และยังเป็นอาคารในยุคแรกที่มีรูปแบบความโมเดิร์นที่ได้รับจากแถบตะวันตก เราสามารถเดินเข้าไปดูได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตัวอาคารอาจจะทรุดโทรมได้ตามกาลเวลาอยู่บ้าง แต่ก็สามารถมองเห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีตผ่านสถาปัตยกรรมได้ไม่น้อยเชียวค่ะ ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งน่าเช็คอินสำหรับสายประวัติศาสตร์หรือคนที่มองหามุมน่าถ่ายรูป หรือจริงๆน่าจะเรียกว่าสไตล์โรงงานร้างเท่ๆน่าจะถูกกว่า
9. Mulberry Mellow
Mulberry Mellow เป็นคาเฟ่สไตล์ปิคนิค โล่งๆกว้างๆ บรรยากาศร่มรื่นสบายๆ ติดแม่น้ำแควน้อยในจังหวัดกาญจนบุรี เหมือนสวนให้เลือกนั่งปิคนิคท่ามกลางธรรมชาติ ชมวิวทิวเขา ชมนกชมไม้ ฟังเสียงน้ำไหล หรือเม้ามอยกับเพื่อนก็ได้ ซึ่งที่นี่มีพร้อพให้พร้อมในการนั่งปิคนิค ทั้งเก้าอี้ผ้าใบ เสื่อหมอน ต่างๆ
10. The Village Farm to Café
กลิ่นอายความฟาร์มมาเต็มสำหรับคาเฟ่นี้ ดีไซน์ของตึกนี่สะดุดตาสะดุดใจแบบสุดๆ มันมีความฟาร์มแต่ก็ออกอาร์ตๆโมเดิร์นๆเก๋ดีไม่หยอก แต่ละโซนก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป แต่มีอะไรที่เหมาะสำหรับทุกๆคน
11. Rainforest Café กาญจนบุรี
Rainforest Cafe คาเฟ่คอนเซ็บป่าดงดิบที่สร้างขึ้นในวงโอบล้อมของต้นไม้น้อยใหญ่หนาทึบ มาเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะให้อารมณ์ความชิลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะมาจิบกาแฟหอมๆและขนมเค้กอร่อยๆในตอนกลางวันหรือจะมีแฮงค์เอ้าฟังเพลง ชมบรรยากาศยอดไม้ในตอนกลางคืนก็ได้
12. พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า
“พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า” ตั้งอยู่ภายในอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยอยู่ใกล้ๆกับสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักประมาณ 150 เมตรเหมาะกับคนที่ต้องการเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการจำลอง เชลยศึก ที่พัก และสภาพความเป็นอยู่ของเชลยในช่วงเวลานั้นไว้อย่างละเอียดยิบ มีทั้งภาพเหตุการณ์จริง และเรื่องเล่าทางวีดีโอให้ได้ชม
13. วัดถ้ำเขาปูน
วัดถ้ำเขาปูน เป็นถ้ำอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดไปชม ทั้งในเรื่องของความงามที่มีเอกลักษณ์ของถ้ำ และได้กราบพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นถ้ำสำคัญในช่วงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเป็นค่ายเชลยศึก ซึ่งสามารถไปถึงได้ทั้งทางบกและทางน้ำ
14. หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
หอศิลป์และพิพิธภัณท์สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ของเอกชนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นศูนย์อำนวยการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควของกองทัพญี่ปุ่นเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสถานที่เก็บเรื่องราวในครั้งนั้นจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าไปชมได้
15. ต้นจามจุรียักษ์
“ต้นจามจุรียักษ์” หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองกาญจนบุรีที่สายชิลไม่ควรพลาด ต้นจามจุรี หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ “ต้นก้ามปู” แห่งนี้นั้นยักษ์จริงจังสมชื่อด้วยความสูงมากถึง 30 เมตร ทั้งด้านอายุที่มีมากถึง 100 ปี ซึ่งแตกกิ่งก้านสาขาเป็นวงกว้างใหญ่โตอย่างไม่น่าเชื่อทำให้หลายๆคนต้องเดินทางไปชมและถ่ายรูปเช็คอินความงามและอลังการของต้นไม้ต้นนี้กัน
16. หินเทพช้าง วัดทัพศิลา
หินเทพช้าง นั้นตั้งอยู่ภายในวัดทัพศิลา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เด็ดประจำวัดที่แขกไปใครมาต้องไม่พลาดมาขอพรเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยหินเทพช้างนั้นถูกค้นพบเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว มีลักษณะเป็นรูปช้างหลายเชือกกำลังหมอบคลาน อยู่ลึกลงไปในดินประมาณ 2 เมตร ที่ชาวบ้านละแวกนั้นให้ความเคารพศรัทธา
17. ย่านเมืองเก่า ถนนปากแพรก
“ถนนบ้านแพรก” นั้นตั้งอยู่บริเวณแถบริมกำแพงเมืองกาญจนบุรี เป็นหนึ่งในย่านชุมชุมเมืองเก่าแก่มากที่สุดในเขตตัวเมืองกาญจรบุรี ที่ยังคงอนุรักษ์สถานที่ต่างๆทั้งอาคารบ้านเรือน ร้านค้า และโรงแรมที่ยังคงมีความวินเทจและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าร้อยปี ยังคงเสน่ห์เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสถาปัตยกรรมโบราณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์เป็นอย่างดี แถมมีคาเฟ่ชิคๆอินๆให้ได้เดินเล่นเก๋ๆ รวมทั้งวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เย็นๆค่ำๆก็ยังมีตลาดกลางคืนให้เดินเพลินกันด้วย
18. วัดถาวรวราราม (วัดญวน)
วัดถาวรวราราม หรือที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อ “วัดญวน” เกิดมาจากจิตศรัทธาของเหล่าชาวญวนที่มีต่อพระพุทธศาสนาจนได้ริเริ่มก่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว เดิมทีมีชื่อแบบญวนว่า “คั้นถ่อตื่อ” แปลตรงๆตามภาษาไทยหมายถึง อยู่อย่างมั่งคงถาวร เป็นวัดในพระพุทธศาสนาฝ่ายอนัมนิกายลัทธิมหายานที่มีเอลกลักษณ์แสดงออกมาทางสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังเป็นวัดญวนแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย
19. สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่
สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า “สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาปูน” ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำแควน้อย อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากใจกลางเมืองประมาณแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ในอดีตนั้นที่นี่เคยเป็นค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่มาก่อน ส่วนมากเชลยของที่นี่จะเป็นทหารอังกฤษซะมาก รวมๆแล้วมีพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ ทั้งยังบรรจุศพเชลยศึกรวม 1,750 หลุมไว้ทีเดียวโดยที่นี่นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในส่วนสำคัญที่เราจะสามารถศึกษาประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างดีท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบที่ตกแต่งได้อย่างงดงาม
20. วัดถ้ำพุหว้า
วัดถ้ำพุหว้าเป็นวัดป่าและได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสาขาของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เหมือนอยู่ในหุบเขา จึงเป็นวัดที่มีความสงบ เหมาะสมที่จะไปนั่งวิปัสสนา ตามประวัตินั้น เมื่อก่อนใช้ถ้ำเป็นอุโบสถ แต่ต่อมาได้พัฒนาและสร้างอุโบสถครอบตัวถ้ำอีกที เป็นโบสถ์ที่ทำด้วยหินทราย มีถ้ำหินย้อยที่สวยแบบที่น่าจะเรียกได้ว่า “สวยอย่างมหัศจรรย์”