วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดอยุธยา
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดหนึ่งเดียวของอยุธยาที่อยู่ในเขตพระราชฐาน วัดประจำพระราชวัง ต้นแบบวัดพระแก้ว วัดพระศรีสรรเพชญ์มีจุดเด่นคือเจดีย์ 3 องค์เรียงตัวกันอยู่กลางวัด แต่ละองค์บรรจุพระบรมอัฐิธาตุของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งซากร่างแห่งความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรม นั่นคือ วิหารหลวง สถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ
วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดที่พระบรมไตรโลกนาถโปรดฯ ให้สร้างขึ้น แต่เดิมเป็นพระราชมณเฑียรที่ประทับของพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ต่อมาพระบรมไตรโลกนาถทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางด้านแม่น้ำลพบุรี จึงทรงนำที่ดินของพระราชมณเฑียรเดิมไปสร้างเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์เพื่อประกอบพระราชพิธีทางศาสนา วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดี่อยู่ในเขตพระราชฐานหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวัดประจำพระราชวัง จึงไม่มีพระจำพรรษาอยู่ และวัดพระศรีสรรเพชญ์ก็เป็นแบบอย่างของวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วในปัจจุบันด้วย
เนื่องจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ถูกพม่าเผาทำลายจนเหลือแต่ซากปรักหักพังเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 ต่อมาในสมัยจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ได้บูรณะเจดีย์ 3 องค์ของวัด เจดีย์จึงมีสภาพครบถ้วนด้วยศิลปะอยุธยาอย่างในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
เจดีย์ 3 องค์ที่วางเรียงกันจากทิศตะวันออกไปตะวันตกนี้เป็นจุดเด่นของวัด โดยเจดีย์ทั้ง 3 องค์นี้ เป็นเจดีย์ทรงลังกาแบบอยุธยาซึ่งแตกต่างจากเจดีย์ทรงลังกาแบบสุโขทัย ตรงบริเวณที่เรียกว่าบัวถลา แม้บัวจะหงายออกเหมือนกัน แต่ของอยุธยาจะมีเสารอบบัว ส่วนของสุโขทัยบัวจะเรียบ เจดีย์ทั้ง 3 องค์ดังกล่าวได้แก่
- เจดีย์ทางด้านทิศตะวันออก เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมอัฐิในสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชบิดาในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
- เจดีย์องค์กลาง เป็นเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระบรมเชษฐาในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
เจดีย์ทางทิศตะวันออกและองค์กลาง สร้างโดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ในปีพ.ศ. 2035
- เจดีย์ทางด้านทิศตะวันตก เป็นเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สร้างขึ้นโดยพระบรมราชิราชที่4 (สมเด็จพระหน่อพุทธางกูร)
เจดีย์ทั้ง 3 ได้รับการบูรณะสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ปัจจุบันจึงอยู่ในสภาพดี ทั้งฐานเชียง ฐานปัทม์ บัวถลา บัวปากระฆัง เรือนธาตุ บัลลังก์ และก้านฉัตร ทุกส่วนสมบูรณ์พร้อมด้วยศิลปะอยุธยา สำหรับผู้ที่ศึกษาศิลปะโบราณจึงควรไปดูองค์จริงให้เห็นกับตาสักครั้ง
วิหารหลวงเป็นที่ประกอบพระบรมราชพิธีทางศาสนา เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒสัตยา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2042ภายในมีพระศรีสรรเพชญดาญาณประดิษฐานอยู่ โดยพระศรีสรรเพชญดาญาณ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2043 เป็นพระพุทธรูปสำริดสีดำ ปางยืนยกพระหัตถ์ขวา หุ้มด้วยทองคำหนัก 347.776 กิโลกรัม เมื่อครั้งสมครามช้างเผือก พระศรีสรรเพชญดาญาณถูกทหารหงสาวดีตัดพระกร และได้รับการบูรณะในสมัยใดสมัยหนึ่งก่อนพระเจ้าปราสาททอง หลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 วิหารหลวงถูกเผาทำลายจนเหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง ทองทั้ง 300 กว่ากิโลกรัม บนองค์พระศรีสรรเพชญดาญาณถูกลอกออกไป แต่องค์สำริดของท่านยังคงอยู่ ปัจจุบันท่านประดิษฐานอยู่ที่เจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในกรุงเทพฯ โดยรัชกาลที่ 1 โปรดให้อัญเชิญมาจากซากวิหารหลวงนั่นเอง
วิหารพระโลกนาถคือวิหารที่เดิมประดิษฐานพระพุทธโลกนาถ ซึ่งเป็นพระปางยืนยกพระหัตถ์ซ้าย ทำจากสำริดลงรักปิดทอง ต่อมารัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมากรุงเทพพร้อมกับพระศรีสรรเพชญ์ ปัจจุบันพระพุทธโลกนาถประดิษฐานอยู่ที่วิหารทิศตะวันออก มุขหลัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ค่าใช้จ่าย
คนไทย 10 บาท ต่างชาติ 50 บาท
เวลาทำการ
เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
วิธีการเดินทาง
สำหรับผู้ที่มีรถมาเอง จากตัวเมืองอยุธยาขับตรงไปตามถนนเทศบาลเมืองอโยธยา เข้าถนนอยุธยา-อ่างทอง ผ่านหน้าวัดกล้วยสู่ถนนป่าโทน เลี้ยวขวาเข้าถนนเนรศวร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงบึงพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์จะอยู่ทางซ้ายมือ ระยะทาง 6.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 13-14 นาทีเท่านั้น
หากไม่ได้นำรถมาเอง คุณสามารถนั่งรถปรับอากาศจากหมอชิตหรือรถไฟจากหัวลำโพงมาลงในตัวเมืองอยุธยาแล้วเช่ามอร์เตอร์ไซค์ขับไปตามทางที่กล่าวข้างต้น หรือนั่งสองแถวสีน้ำเงินแล้วไปลงวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งคุณสามารถเดินเลียบบึงพระรามไปวัดมหาธาตุต่อได้