วัดเขาบันไดอิฐ
วัดเขาบันไดอิฐ เป็นวัดทีตั้งอยู่บนภูเขาสูง หากมองภาพจากมุมสูงจะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานกลางแจ้งเด่นเป็นสง่า ท่ามกลางที่แวดล้อมด้วยป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์
บนยอดเขาที่สูง 121 เมตรแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดเขาบันไดอิฐที่เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่มีความวิจิตร งดงาม และประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่น่าติดตามความเป็นจริง
ตำนานวัดเขาบันไดหิน มีหลายตำนานเล่าขาน ตำนานแรกบอกว่าวัดแห่งนี้ เคยเป็นเสมือนคุกที่มีไว้ขังพระศรีศิลป์ ในฐานะกบฏของแผ่นดิน ตัวของพระศรีศิลป์นี้สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าทรงธรรม บุรพกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์หนึ่ง
ส่วนอีกตำนานระบุว่า ที่นี่เป็นที่ที่พระอาจารย์แสงผู้ชำนาญเรื่องเวทย์มนต์คาถาและเป็นอาจารย์ของพระเจ้าเสือ เคยอาศัยเป็นที่นั่งวิปัสสนา และพระเจ้าเสือเคยมาที่นี่ประจำก่อนออกศึกทุกครั้ง หากตำนานก็คือตำนาน รู้เพียงว่า อย่างน้อยความสำคัญของวัดนี้ก็เกี่ยวข้องกับราชวงศ์แห่งกรุงศรีอยุธยา
อีกจุดเด่นของวัดแห่งนี้ก็คือ ถ้ำ ที่เขาบันไดหินแห่งนี้มีถ้ำอยู่มากมาย ดังนี้
ถ้ำประทุน ป้ายด้านหน้าบอกว่าที่นี่สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ. 2475 ด้านในถ้ำมี แท่นที่ในอดีตเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิตรงกลาง ลงบันไดไป มีรูปปั้นปลาอานนท์ พอลงไปสุดบันได เป็นโถงกว้าง มีพระพุทธรูป ปางมารวิชัย (ปางสะดุ้งมาร) มีประมาณ 45 องค์ อยู่รายเรียงติดผนังถ้ำสองฝั่ง แหงนหน้าดูสูงขึ้นไปนิด จะเป็นผนังถ้ำที่เป็นหินย้อยตะปุ่มตะป่ำ อาจไม่ใช่หินย้อยสวยงามเหมือนที่อื่น
ถ้ำพระเจ้าเสือ เดินต่อไปจากถ้ำประทุน มีพระพุทธรูปปางประทานพร (ปางเปลื้องทุกข์) มีลักษณะสวยงาม ประดิษฐานอยู่บนฐานที่มีลวดลายวิจิตร คนชอบมาอธิษฐานขอพร ตามประวัติเล่าว่าพระเจ้าเสือ (พระศรีสรรเพชร) กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเคยมาที่นี่ และนำพระพุทธรูปมาถวายประดิษฐานอยู่ในถ้ำส่วนนี้จนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญของถ้ำนี้อีกก็มีพระปรางค์ไสยาสน์อยุ่ในตู้ที่เป็นกระจก นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์ นอกจากนั้นมีรอยพระพุทธบาทจำลอง แกะจากหินอ่อน มี 108 ช่อง 108 มงคล อยู่ในตู้เป็นกระจกเช่นกัน ถัดเข้าไปอีกเป็นถ้ำพระนอน ตรงบริเวณทางเข้ามีศาลตายายที่เชื่อว่าคอยปกปักบริเวณนี้อยู่
ถ้ำพระนอน มีพระปางไสยาสน์สีทองประดิษฐานอยู่ ตรงซอกผนังถ้ำ ยังมีประทุนเรือไม้เก่า ที่เชื่อว่าเป็นของพระเจ้าเสือเอามาถวาย สภาพเก่ามาก มีผ้าสีๆ ผูกเรือเอาไว้ ตรงประทุนเรือนั้น มีป้ายปิดเอาไว้ ตามประวัติว่า เป็นเรือที่พระเจ้าเสือเคยใช้และทิ้งไว้ที่นี่ มีหินก้อนหนึ่งที่เหมือนช้างอยู่ในถ้ำนี้ด้วย
ถ้ำพระจันทร์ ด้านบนเหมือนพระจันทร์ทรงกลด คือ มีปล่องที่แสงด้านนอกเข้ามาได้ ลักษณะเป็นช่องเล็กๆ แสงที่เห็นเลยเหมือนกับพระจันทร์ทรงกลด
ถ้ำพระอาทิตย์ ด้านบนมีช่องกว้างกว่าช่องตรงถ้ำพระจันทร์ อยู่ถัดจากถ้ำพระจันทร์ ทางเดินระหว่างถ้ำช่วงนี้ มีบันไดขึ้น
ถ้ำปู่ฤาษีตาไฟ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ และมีรูปปั้นพ่อปู่ฤาษี ห่มหนังเสือ ตามตำนานเล่าว่า มีฤาษีธุดงค์มาปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำนี้ ท่านบรรลุญาณวิเศษ จนมีตาไฟ และมีญาณรู้ว่าจะตายเร็ววัน ได้อธิษฐานขอให้ร่างแห้งติดผนังถ้ำ ที่สุดแล้วเมื่อท่านตายสังขารท่านกลายเป็นหินสังเกตที่ผนังถ้ำใกล้รูปปั้นก็จะมองคล้ายๆ ฤาษีตามตำนาน
ถ้ำดุ๊ค เจ้าชายเดนมาร์ค สหายรัชกาลที่ 5 ดุ๊คโยฮันฮัลเบิร์ต เคยมานั่งสมาธิที่นี่ ท่านนั่งแล้วใจสงบ จึงมาสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมไว้ในที่นี้ ในถ้ำนี้ มีพระพุทธรูปทำจากไม้สัก ผนังถ้ำแถวนี้สวยงาม มีลวดลายในตัว
เนื่องจากมีถ้ำในนี้มากมายหลายถ้ำ หากอยากชมอย่างได้ความรู้ด้วย อาจไปกับมัคคุเทสก์ที่อยู่หน้าถ้ำ นอกจากถ้ำดังกล่าวแล้วยังมี ถ้ำสว่างอารมณ์ ถ้ำช้างเผือก
ด้านบนพระพุทธรูปขึ้นไปกราบสักการะได้ เมื่อมองไปด้านล่างเห็นวิวสวยงาม
แวะไปวัดเขาบันไดอิฐ เดินถ้ำอย่างจุใจ สายที่ชอบคงประทับใจไม่รู้ลืม
ที่ตั้ง
ถนนบันไดอิฐ ตำบลบ้านหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
ค่าใช้จ่าย
เข้าชมได้ฟรี แต่ถ้ามีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำชม สามารถทิปได้
เวลาทำการ
เปิดทุกวัน 8.00-17.00 น.
วิธีการเดินทาง
1. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ไปทางดาวคะนอง ไปออกทางหลวงหมายเลข 35 ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชิดซ้ายตรงป้ายที่เขียนว่าเพชรบุรี แล้วใช้ทางลาดเข้าสู่ถนนหมายเลข 4 ขับต่อไปจนถึงจุดหมายปลายทาง
2. เดินทางโดยรถสาธารณะ ที่นี่อยู่ในเขตเมืองเพชรบุรี สามารถไปได้ทั้งรถโดยสาร รถทัวร์ และรถตู้เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองก่อน แล้วต่อรถในพื้นที่