อุทยานมังกรสวรรค์และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
อุทยานมังกรสวรรค์และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง: อุทยานมังกรสวรรค์ประกอบไปด้วยศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่ประดิษฐานเทวรูปนูนต่ำอายุกว่า 1,300 ปี เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณที่แสนศักดิสิทธิ์ อุทยานพุทธบัญชาประดิษฐานพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียงรายล้อมด้วยรูปหล่อ 18 อรหันต์ หมู่บ้านมังกรสวรรค์ที่จำลองหมู่บ้านมรดกโลกที่ลี่เจียงเอามาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม และพิพิธภัณฑ์ลูกหลานแดนมังกร จัดแสดงประวัติศาสตร์จีนอันแสนยิ่งใหญ่ และประวัติชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในไทย
แต่เดิมบริเวณนี้คือศาลเจ้าพ่อหลักเมืองซึ่งมีลักษณะเป็นศาลาไทย เรียกกันว่า ‘ศาลเทพารักษ์หลักเมืองสุพรรณบุรี’ กระทั่งปี พ.ศ. 2530 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยการทำศาลาจีนครอบศาลาไทย มี ฯพณฯ ท่านบรรหาร ศิลปอาชา เป็นประธานเปิดศาลหลักเมืองใหม่ กระทั่งปี พ.ศ. 2539 จึงได้มีการสร้างอุทยานมังกรสวรรค์ขึ้นเนื่องในวาระความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนครบ 20 ปี ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจึงอยู่ในอุทยานและเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยาน
1.ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เมื่อประมาณ 150 ปีก่อน ชาวบ้านพบเทวรูปนูนต่ำ สี่กร ลอยน้ำมา 2 องค์ ช่วยกันชักขึ้นอย่างไรก็ไม่สำเร็จ กระทั่งต้องทำพิธีบวงสรวงโดยบอกท่านว่าหากขึ้น จะสร้างศาลให้ท่าน กระทั่งกลายเป็นเจ้าพ่อหลักเมืองมาจนถึงทุกวันนี้
เจ้าพ่อหลักเมืองเป็นเทวรูปหินสีเขียว (ปัจจุบันถูกปิดทอง) ลายนูนต่ำ ศิลปะไพรกเมง (ขอม) อายุประมาณ 1,300-1,400 ปี ลักษณะเป็นบุรุษเพศ สี่กร จากอาวุธที่ถือสันนิษฐานได้ว่าองค์หนึ่ง คือ พระอิศวรเพราะถือตรีศูล อีกองค์ คือ พระนารายณ์เพราะถือจักร เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณมีความศักดิ์สิทธิ์มากจนได้รับความเคารพสักการะทั้งจากชาวไทยและชาวจีน กระทั่งกล่าวกันว่าท่านคือ “พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร”
โดยปกติแล้วเมื่อกล่าวถึงพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเจ้าแม่กวนอิม ทั้งที่ในความจริงแล้วคติความเชื่อเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรดั้งเดิมเกิดขึ้นในชมพูทวีป มีทั้งเพศชายและเพศหญิง โดยคำว่า “อวโลกิเตศวร” ในภาษาสันสกฤตแปลว่า “ผู้เฝ้ามองจากเบื้องบน” แม้คติความเชื่อเรื่องพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพศหญิงผู้ทรงเมตตาได้เผยแพร่ไปในจีน เกาหลี และญี่ปุ่น แต่คติความเชื่อเรื่องพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพศชายที่เกิดจากญาณของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ นั้น กลับเผยแพร่ลงมาทางใต้ ดังจะเห็นได้จากรูปปั้นสำริดพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพศชาย ศิลปะศรีวิชัย พบในเกาะสุมาตราและชวา และพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรศิลปะทวารวดีในพิพิธภัณฑ์อู่ทอง ลักษณะเป็นบุรุษเพศ มี 3 กร บ้าง 4 กรบ้าง สวมพระมาลาทรงกระบอก คล้ายพระมาลาของเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ ดังนั้นความเชื่อที่ว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเป็นเพศชายจึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลจากคติความเชื่อโบราณ และเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณก็อาจเป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรจริงๆ ก็เป็นได้
- 2. อุทยานพุทธบัญชา จุดเด่นของอุทยานคือเจดีย์พุทธบัญชา เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสูง 5 ชั้น ที่ก่อสร้างเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ภายในประดิษฐานพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียง ปางประทับนั่งบนปัทมาสน์ ล้อมรอบด้วยรูปหล่อทองเหลืองพระอรหันต์ 18 องค์ โดยพระยูไลองค์นี้เบิกเนตรโดยพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตรเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย พระยูไลหรือยูไลฮุดโจว ในภาษาแต้จิ๋ว เป็นคำเรียกพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ โดยไม่ระบุว่าเป็นพระองค์ไหน พระยูไลที่ชาวจีนนิยมนับถือมีอยู่ด้วยกัน 3 พระองค์ คือ พระยูไลถือดอกบัว พระยูไลถือดวงแก้ว และพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียง สำหรับพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียงนี้เป็นพระยูไลที่จะดึงสรรพสัตว์ดุร้ายกิเลสหนามากักขังในเจดีย์บุ๋ยเซียง ให้สัตว์นั้นลดทิฐิลง แล้วจึงเทศนาโปรดสัตว์ตนนั้นจนหลุดพ้น
- 3. หมูบ้านมังกรสวรรค์ หมู่บ้านแห่งนี้จำลองมาจากหมู่บ้านลี่เจียง หมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก อายุกว่า 1,000 ปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในเมืองโบราณจริงๆ นอกจากจะถ่ายรูปแล้ว ยังสามารถซื้อหาข้าวของและเลือกใช้บริการร้านรวงในหมู่บ้าน เช่น โรงนวด โรงเตี๊ยม เหลาก๋วยจั๊บ และร้านขายของที่ระลึก ทั้งหมดตกแต่งทั้งภายนอกและภายในแบบจีนโบราณ จุดเด่นของหมู่บ้านมังกรสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวจะพลาดชมไม่ได้ มีอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน คือ
3.1 หอชมวิว หอสูง 4 ชั้น หลังคาเก๋งจีน ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนทางตอนใต้โบราณ จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวมุมสูงของจังหวัดสุพรรณบุรีได้ 360 องศา
3.2 กังหันหน้าหมู่บ้าน ในหมู่บ้านโบราณลี่เจียงมีกังหันพ่อลูกเป็นแลนด์มาร์กของหมู่บ้าน โดยกังหันพ่อลูกเป็นกังหันไม้อายุ 1,000 ปี 2 อัน ขนาดเล็ก 1 อัน ขนาดใหญ่ 1 อัน วางเหลื่อมกันในน้ำ ที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์ก็จำลองกังหันเอาไว้หน้าหมู่บ้านด้วยเช่นกัน จุดนี้จึงเป็นจุดที่หากนักท่องเที่ยวไม่ไปถ่ายรูป ก็เรียกว่าไปไม่ถึงเลยทีเดียว
3.3 เสามังกรสวรรค์ เยื้องกับหอชมวิวมีเสาสูงสลักลายงดงามตั้งตระหง่านอยู่ เสานี้คือเสามังกรสวรรค์จากเมืองเซี๊ยะเหมิน ประเทศจีน โดยเมืองเซี๊ยะเหมินเป็นเสมือนเมืองหน้าด่านก่อนเข้าสู่เมืองหลวงของจีนในอดีตกาล ปัจจุบันเป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
4. พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เมื่อไปถึงบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง นักท่องเที่ยวย่อมสังเกตเห็นมังกรตัวใหญ่ได้อย่างชัดเจน มังกรตัวนี้ไม่ใช่แค่เป็นแลนด์มาร์ก หรือสถานที่สำหรับเซลฟี่เท่านั้น แต่ฐานของมังกรเป็นอาคารที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนที่มีอายุยาวนานกว่า 5,000 ปี รวมถึงประวัติคนไทยเชื้อสายจีนหรือลูกหลานคนจีนในไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เล่าประวัติศาสตร์ด้วยหุ่นขี้ผึ้ง เริ่มตั้งแต่เจ้าแม่หนีฮวาสร้างมนุษย์ ตามด้วยหุ่นเสินหนง หัวหน้าเผ่าแซ่เจียง เมื่อ 5,000 ปีก่อน เล่ากันว่าเขาเป็นผู้ค้นพบการดื่มชา และสร้างปฏิทินดาราศาสตร์ ตามด้วยเหตุการณ์และบุคคลสำคัญตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย ชาง โจว จิ๋น เรื่อยมาจนถึงหมิง และชิง มาจนถึงยุคสาธารณรัฐ สังคมนิยม และการเมืองสังคมนิยมเศรษฐกิจทุนนิยมอย่างในปัจจุบัน
ค่าใช้จ่าย
ชาวไทยผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท
ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 499 บาท เด็กต่างประเทศ 299 บาท
เวลาทำการ
หยุดทุกวันอังคาร
วันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
วันหยุด ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
วิธีการเดินทาง
จากที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรีใช้ถนนพระพันวัสสา ผ่านหน้าสถานีตำรวจภูธรสุพรรณบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนน มาลัยแมน เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างสยามคูโบต้าสุพรรณบุรี ตรงไปเรื่อยๆ จะถึงอุทยาน