เจษฏา เทคนิค มิวเซียม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพาหนะโบราณ ยุคต่างๆ ทั้งบนบก ในอากาศและความจริงเกือบจะมีเรือดำน้ำด้วย หากไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างขนย้ายเสียก่อน แต่ในอนาคตอาจจะได้เห็น ตอนนี้ก็เข้าชมเท่าที่มีก่อน
จากแรงบันดาลใจที่ไปเห็นพิพิธภัณฑ์รถเก่าในประเทศแถบยุโรป-เยอรมัน คุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ เจ้าของที่นี่ ซึ่งมีความนิยมชมชอบเรื่องรถเป็นพิเศษอยู่แล้ว จึงอยากให้มีพิพิธภัณฑ์ทำนองเดียวกันนี้ในเมืองไทยบ้าง จึงเริ่มต้นหาซื้อรถเก่าในประเทศไทยเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในปี 2549 ถึงวันนี้ รถเก่าสุดของที่นี่มีอายุเป็น 100 ปีทีเดียว
การจัดแสดงรถของที่นี่แบ่งเป็น 3 โซนคือ ส่วนแรก ไมโครคาร์ รถการ์ตูน เครื่องยนต์ไม่เกิน 800 cc เมืองไทยไม่ค่อยมี ส่วนที่สองคือ คลาสสิคคาร์ ค่อนข้างเป็นรถที่คนที่ชื่นชอบเล่นรถจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนสุดท้ายคือ สกู๊ดเตอร์
นอกจากรถก็มีรถไฟ จัดแสดงอยู่ด้านหน้า และมีเครื่องบินอีก 3-4 ลำ
ความน่าสนใจของรถโบราณในมิวเซียมแห่งนี้ มีหลากหลาย หากไปชมอย่าพลาด รถที่อยู่บนบกก็ได้ ในน้ำก็ได้
รถคันแรกของคุณเจษฎาที่เริ่มสะสม ปัจจุบันจัดให้ชมด้วย เป็นรถเม็สเซอร์ชมิท KR-200 สีแดงเลือดนก เป็นรถ 3 ล้อ เจ้าของประมูลมาจากเจนีวา ซึ่งตามประวัติบริษัทนี้เคยผลิตเครื่องบินรบแต่พอเยอรมันแพ้สงคราม ถูกอเมริกาห้ามผลิตเครื่องบินจึงหันมาผลิตรถยนต์แทน รถคันนี้จึงมีหน้าตาเหมือนเครื่องบินตัดปีกแล้วใส่ล้อ รถเปิดขึ้นด้านบน ด้านในจึงจำลองสภาพเหมือนเครื่องบิน เก้าอี้คนขับเหมือนเก้าอี้ดีดของนักบิน รถคันเล็กๆ คันนี้ วิ่งได้เร็วมาก และมีความแปลก คือ ไม่มีเกียร์ถอยหลัง แต่ใช้สวิซเป็นตัวบังคับแทน รถมีอายุตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการดูแลอย่างดี มีสภาพเหมือนใหม่
รถเบนซ์ รุ่นโบราณหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ส่วนรถที่เก่าที่สุดของที่นี่เป็นรถซีตรอง สีไข่ไก่ คันนี้ผลิตในปี 1922 มีเกย์วัดความร้อนของหม้อน้ำติดอยู่ด้านหน้ารถ (ด้านนอกตัวรถ) ที่คนขับมองเห็น รถคันนี้ไม่มีหลังคา พื้นรถด้านในเป็นไม้ คันนี้เคยปรากฏในภาพยนตร์
รถของที่นี่มีโอกาสได้ปรากฏในที่ต่างๆ เช่น ประกอบภาพพรีเวดดิ้ง ปรากฏในละคร ภาพยนตร์ มิวสิควีดิโอ
ในโซนรถไมโครคาร์ รถเล็ก หรือรถการ์ตูน เป็นของอังกฤษ เยอรมัน อิตาลี การออกแบบรถชุดนี้ ใช้หลักการเหมือนออกแบบตู้เย็น เวลาเปิดเปิดที่หัวรถ เหมือนเปิดตู้เย็น และมีประตูด้านบนหรือด้านข้างอีกประตู ตามกฎหมายบังคับ เป็นรถช่วงหลังสงครามโลกเช่นกัน ไฮไลต์ของโซนนี้คือรถตำรวจสีน้ำเงิน สังเกตที่ไฟหลังคารถ
สามล้อนานาชาติ มีทรงเหมือนรถบรรทุก แต่มีสามล้อ ต้นกำเนิดก่อนมีรถตุ๊กๆ ในปัจจุบัน ถ้าอยากเห็นการวิ่งต้องดูที่จังหวัดตรังยังใช้รุ่นนี้อยู่ มีรถสามล้อของอินเดียด้วย
ไฮไลต์อีกชุดคือ รถจักรยาน คอนเฟอเรนส์ไบรท์ จักรยานประชุม ขี่ไปคุยไปหลายคน
อีกจุดที่พิเศษ พลาดไม่ได้ คือ รถที่ทำด้วยวัสดุแตกต่าง มีรถแสตนเลส รถไฟเบอร์ รถไม้
รถกระดาษ ของเยอรมันตะวันออก ทำหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะไม่มีเหล็กถูกทำอาวุธสงครามหมด ตัวรถแทบดูไม่ออกว่าทำด้วยกระดาษ ทำด้วยกระดาษแทบทั้งหมด ยกเว้นคาร์ชกับเครื่อง
รถหนัง-ของเชคโกสโลวาเกีย ปัจจุบันเป็นรถต้องห้ามของเชคโก ห้ามนำออก
รถ+เรือ ขับบนบกก็ได้ วิ่งในน้ำก็ได้ เป็นอีกคันที่น่าสนใจ เวลาวิ่งในน้ำใช้พวงมาลัย ไม่ใช้หางเสือ เคยปรากฏในหนังเรื่องเพชรตัดเพชร ยุค มิตร ชัยบัญชา
รสเวสป้า เกียร์มือ อายุเก่าสุดคือ 40 ปี ราคาสูงสุดหลักล้านบาท
การเข้าชมที่นี่ หากต้องการวิทยากรบรรยาย ควรเป็นการเข้าชมเป็นหมู่คณะ จะได้รับความรู้เต็มที่พร้อมชมอย่างมีประโยชน์มีเกร็ดเกี่ยวกับรถแต่ละรุ่น
คนที่จะชมมิวเซียมแห่งนี้แล้วมีความสุขที่สุดคือ คนที่นิยมและศึกษารถเก่า รู้ประวัติที่มาของแต่ละรุ่น แล้วค่อยไปเห็นของจริงด้วยตาตัวเอง เพราะหากไม่มีความรู้ประเภทคลั่งไคล้อย่างมากหรือไม่ได้เข้าชมเป็นหมู่คณะที่มีวิทยากรบรรยาย หรือไม่ใช่คนช่างซักถาม จะได้เพียงชมความสวยและความแปลก หรือชื่นชมในความช่างสรรหาสะสมของเจ้าของเท่านั้น
ที่ตั้ง
100 หมู่ 2 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม