ถ้าให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศสบายๆ มีของอร่อยให้ชิมหลากหลาย พร้อมได้สัมผัสวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำที่เห็นแล้วชวนอบอุ่นหัวใจ คงหนีไม่พ้น เมืองแห่งสายน้ำสามเวลาอย่าง ‘อัมพวา’ สถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของใครหลายคน แต่ก่อนจะไปเที่ยวชมตลาดน้ำ เราอยากให้คุณแวะไหว้พระเสริมสิริมงคล ณ วัดอัมพวันเจติยารามวรวิหาร (Wat Amphawan Chetiyaram) วัดเก่าคู่เมืองอัมพวาที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณห้ามพลาด เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดสมุทรสงครามแห่งนี้
วัดอัมพวันเจติยารามวรวิหาร วัดเก่าแก่คู่เมืองที่สงบ งดงาม
วัดอัมพวันเจติยารามวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดที่ควรค่าแก่การไปกราบไหว้สักการะขอพรเพื่อเสริมสิริมงคงให้แก่ชีวิตตนเองไม่แพ้วัดเก่าแก่คู่เมืองแห่งอื่นเลย โดยเมื่อคุณก้าวย่างเข้าไปในวัด บรรยากาศสบาย ลมเย็นๆ ก็พัดผ่านอย่างแผ่วเบา สถานที่โดยรอบล้วนเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ผ่านการเติบโตมายาวนานกว่า 30 ปี ความร่มรื่นแห่งนี้ยังโอบล้อมคนที่เข้ามาในวัดได้อย่างอบอุ่น แถมยังช่วยชโลมจิตใจให้รู้สึกสงบและสำรวมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยืนอยู่ตรงหน้าพระอุโบสถที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ยังคงความงดงามและวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้อย่างไม่อยากจะละสายตาไปไหน
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง สะท้อนสถาปัตยกรรมที่ชวนให้ระลึกถึงอดีต
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของวัดอัมพวันเจติยาราม คือภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เขียนขึ้นตามแบบศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ โดยถ่ายทอดเรื่องราวในสมัยรัชกาลที่ 2 และบทพระราชนิพนธ์อย่างเรื่องสังข์ทอง อินเหนาและคาวี ซึ่งเป็นภาพจิตรกรรมที่ถูกบรรจงวาดอย่างละเอียดลออ ยิ่งมองยิ่งชวนให้หลงใหลเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด จากความงดงามที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตจนทำให้คุณไม่อาจละสายตาได้
เดินเยื้องมาทางด้านหลังพระอุโบสถเพื่อเข้าพระวิหาร คุณจะต้องทึ่งกับความสวยงามของพระนอนองค์ใหญ่ ตั้งแต่พระเศียรจนพระบาทที่วัดได้ 19 ศอก และมีพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานอยู่รอบระเบียงพระวิหารจำนวน 52 องค์ ที่จะช่วยเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยความศรัทธาจากชาวบ้านอัมพวา
สักการบูชาพระบรมรูปรัชกาลที่ 2 และพระที่นั่งทรงธรรม
เดินถัดไปบริเวณด้านหน้าของพระปรางค์ จะต้องพบกับพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยที่ถูกประดิษฐานไว้ เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตว่าวัดอัมพวันเจติยารามแห่งนี้ เป็นสถานที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 นั่นเอง ถือเป็นจุดไฮไลท์อีกหนึ่งจุดที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันเข้ามาสักการอยู่เนืองนิจ รวมไปถึงชาวอัมพวาทุกคนที่มักจะเข้ามากราบไหว้ขอพร อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวบ้าน รวมถึงคนที่ผ่านไปมาต่างก็ยกให้วัดอัมพวันแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และควรค่าที่จะเข้ามากราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอย่างยิ่ง
อีกหนึ่งจุดที่ชาวบ้านหลายคนพูดถึงอย่างมากคือ พระที่นั่งทรงธรรม ที่แต่เดิมเคยเป็นตำหนักไม้ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระรูปฯ ก่อนรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แต่ต่อมารัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ‘พระที่นั่งทรงธรรม’ เพราะสมเด็จพระรูปฯ เมื่อคราวบวชชีได้ทรงฟังธรรมในที่นั้นเป็นประจำ บรรยากาศโดยรอบอาคารพระที่นั่งก็เต็มไปด้วยความร่มรื่นจากกิ่งไม้ที่แผ่ก้านใบสาขาออกมา ตัวอาคารก่อด้วยอิฐสีแดงฉาบด้วยสีขาว สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ยังคงงดงามตามกาลเวลา
วัดอัมพวันเจติยาราม ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและยังคงความเป็นวัฒนธรรมในแบบดั้งเดิม ซึ่งใครที่ชอบเที่ยววัดเก่า และมักจะทำบุญอยู่เป็นประจำ หากมีโอกาสได้แวะมาอัมพวากับครอบครัว หรือกลุ่มคนที่เป็นสายบุญด้วยกัน วัดอัมพวันเจติยารามวรวิหารแห่งนี้ คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง