เบื่อไหมกับการทำงานที่หนักหน่วงมาตลอดทั้งวัน ซึ่งหากคุณหากเบื่อกับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง และเสียงอึกทึกครึกโครมของรถยนต์ บางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้รู้สึกสูญสิ้นแรงบันดาลใจ และบั่นทอนพลังงานชีวิตลงไปไม่น้อย ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ การเดินทางออกไปท่องเที่ยวที่ไหนสักแห่งเพื่อสูดเอาศิลปะวัฒนธรรม รวมถึงวิถีชีวิตต่าง ๆ มาซึมซับเก็บไว้ และคงจะดีไม่น้อย หากสถานที่แห่งนั้น ตั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมหานครมากนัก ซึ่งสถานที่ดังกล่าวที่เราจะแนะนำ ก็คือ วัดบางแคน้อย จังหวัดสมุทรสงคราม วัดที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพก็มาถึงแล้ว
เยี่ยมชมอุโบสถไม้สักแกะสลักแห่งเดียวในเมืองไทย
อุโบสถไม้ใหญ่ตระหง่านที่ตั้งอยู่ใจกลางของวัดบางแคน้อย คือจุดที่สำคัญที่สุดของสถานที่แห่งนี้ หากมองอยู่ด้านนอก เราจะเห็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ โดยเป็นเพียงอุโบสถไม้แห่งหนึ่งที่มีเสาที่ขาวอมชมพูกับหน้าบันทรงแบบไม้จำหลัก ซึ่งมีการแกะสลักรูปต่างๆ ก่อนจะทาด้วยสีทองทาบลงไปอีกที และทุกครั้งที่เราพิศเพ่งสายตาชำเลืองมองขึ้นไปตรงบริเวณหน้าบันที่มีการแกะสลักนั้น ก็จะเห็นแสงสีเหลืองทองแวววับจับตา ราวกับเป็นการหยอกเย้าของแสงสีระหว่างดวงอาทิตย์ก็ไม่ปาน
เมื่อคุณได้เข้าไปเยี่ยมชมภายในของอุโบสถ รับรองจะต้องตื่นตะลึงไปกับความวิจิตรตระการตาของรูปแกะสลักจากไม้สักทั้งหมด ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็นทุกคนได้เป็นอย่างดียิ่ง และทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรรค์สร้างของช่างฝีมือมือหนึ่งชาวเพชรบุรี ที่บอกเล่าเรื่องราวในพุทธประวัติ โดยเริ่มตั้งแต่สมัยประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน รวมถึงเรื่องราวของพระเจ้าสิบชาติ ซึ่งปรากฎบนฝาผนังโดยรอบของภายในพระอุโบสถที่ประดับด้วยไม้สักแกะสลักทั้งหมด ด้วยฝีมืออันประณีตบรรจงของช่างจึงทำให้ใช้เวลาไม่น้อย กว่าจะได้ภาพแกะสลักออกมาเสร็จสมบูรณ์สวยงาม และนอกจากงานแกะสลักไม้สักแล้ว พื้นของอุโบสถหลังนี้ก็มีความพิเศษไม่แพ้กันด้วย โดยเป็นพื้นของอุโบสถทั้งหลังจะใช้ไม้เพียงแค่ 7 แผ่นเท่านั้น ซึ่งไม้ทั้ง 7 แผ่นนี้ก็เป็นไม้ตะเคียนขนาดหน้ากว้างถึง 40-44 นิ้ว หนา 2 นิ้ว วางเรียงปูเต็มพื้นของอุโบสถ ซึ่งความงดงามของงานศิลปะที่เนรมิตขึ้นโดยช่างฝีมือไทยที่เรา ก็ทำให้อดภาคภูมิใจในความประณีตเหล่านี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
สักการะบุษบงแท่นวัชรอาสน
ถัดออกมาไม่ห่างจากตัวของอุโบสถไม้แกะสลักมากนัก จะพบเรือนไม้โบราณตั้งอยู่ในบริเวณที่มีร่มไม้โอบล้อม ทำให้บรรยากาศสดชื่น เย็นสบาย โดยภายในมีหุ่นขี้ผึ้งของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเรือนไม้โบราณแห่งนี้เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้เข้ามากราบไหว้และขอพรเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเมื่อออกจากเรือนไม้แล้ว ก็จะพบกับ “บุษบงแท่นวัชรอาสน” ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ โดยบนแท่นบุษบงนั้นจะถูกโอบล้อมด้วยพระพุทธรูปอยู่เป็นจำนวนมาก
หลังจากที่กราบไหว้พระพุทธรูป และทำบุญไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนกลับลองแวะเวียนไปนั่งเล่นที่บริเวณศาลาริมน้ำของทางวัดต่อได้เลย ซี่งที่บริเวณศาลาแห่งนี้คุณจะสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านมาให้เย็นกาย สบายใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนั่งชิลดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสงบเย็นแล้ว คุณยังจะสามารถให้อาหารปลาไปด้วยก็ยังได้
สัมผัสวิถีชีวิตชาวอัมพวา ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติแบบสงบสุข
วัดบางแคน้อย เป็นวัดที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ และยังเป็นแหล่งของศิลปวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย พื้นที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่ราบลุ่ม และมีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่านตลอด อีกทั้งยังมีคลองต่างๆ ประมาณ 300 คลองกระจายอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะพื้นที่อำเภออัมพวา ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ทำสวนมะพร้าวที่มีลักษณะปลูกยกร่องมาตั้งแต่อดีต อันเป็นภูมิปัญญาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ที่ชุ่มน้ำ และมีน้ำเค็มเข้าถึงสวนในบางช่วงของปี
อัมพวาไม่ได้เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การทำเกษตรแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังมีเอกลักษณ์และความพิเศษอีกหลายอย่าง ซึ่งสิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุดก็คือ เป็นแหล่งรวมของวัดวาอารามต่างๆ อยู่หลายแห่ง โดยวัดเหล่านี้ก็ล้วนมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลายผสมผสานจนเข้ากันกับวัฒนธรรมของชนชาติอื่นๆ เช่น มอญ ไทย และจีนได้อย่างลงตัวกลมกลืน จึงกลายเป็นจุดเด่นสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแม่กลองมาโดยตลอด และวัดบางแคน้อยก็เป็นอีกหนึ่งหมายหมุดสำคัญที่เราจะพลาดไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
ช่องทางการติดต่อ
ที่อยู่ : หมู่ 7 บ้านบางแคใหญ่ ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
เบอร์ติดต่อ : 034-761-222