วัดราชบูรณะ แห่งกรุงศรีอยุธยา
วัดราชบูรณะ: วัดที่ถวายพระเพลิงเจ้าอ้ายและเจ้ายี่พระยา งดงามด้วยปรางค์ประธานที่ค่อนข้างสมบูรณ์สามารถเข้าชมภายในได้ ตื่นตากับจิตกรรมฝาผนังตามคติความเชื่อมหายานที่หาได้ยากในวัดพุทธนิกายเถวรวาทและกรุที่ได้ชื่อว่ามีสมบัติจำนวนมากมายมหาศาลจนขุด 3 ครั้งก็ยังไม่หมด กราบเจดีย์อ้าย เจดีย์ยี่ อนุสรณ์ที่สวรรคตเจ้าอ้ายและเจ้ายี่พระยาเพียงเดินข้ามถนนด้านข้างของวัด
ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาบันทึกไว้ว่าเดิมสมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์ บางครั้งเรียกสมเด็จพระนครินทราธิราช) มีพระราชโอรส 3 พระองค์ คือ เจ้าอ้ายพระยา โปรดฯ ให้ครองเมืองสุพรรณ เจ้ายี่พระยาครองเมืองแพรกศรีราชา หรือ อำเภอสรรคบุรีในปัจจุบัน ส่วนเจ้าสามพระยาครองเมืองชัยนาทหรือพิษณุโลกในปัจจุบัน ต่อมาสมเด็จพระอินทรชาเสด็จสวรรคต พระราชโอรสทั้งสามพระองค์ต่างยกทัพเข้าอยุธยาเพื่อชิงราชสมบัติ และทั้งสามได้กระทำยุทธหัตถีที่เชิงสะพานป่าถาน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวัดราชบูรณะ
ในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้น เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยาสิ้นพระชนม์ เจ้าสามพระยาเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระบรมราชาธิราชที่ 2 และโปรดเกล้าให้สร้างเจดีย์ 2 องค์ ที่เชิงสะพานป่าถ่าน บริเวณที่พระเชษฐาทั้งสองสิ้นพระชนม์ เรียกว่า เจดีย์อ้าย และเจดีย์ยี่ ต่อมาในปี พ.ศ. 1967 เจ้าสามพระยาโปรด ฯ ให้สร้างวัดราชบูรณะขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระเชษฐาทั้งสองขึ้นด้วย
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
- ปรางค์ประธาน ภายนอกปรางค์ประธาน ประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ภายในปรางค์ประธานมีภาพจิตกรรมฝาผนังซึ่งเป็นศิลปะอยุธยาตอนต้นที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน อยุธยานับถือพุทธนิกายเถรวาท ภาพวาดฝาผนังโดยมากจึงเป็นชาดกหรือพุทธประวัติของพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ทว่าปรางค์ประธานวัดราชบูรณะมีความแตกต่างออกไป เพราะมีภาพจิตกรรมเกี่ยวกับพระอดีตพุทธ หรือพระพุทธเจ้าในอดีตพระองค์อื่นที่ไม่ใช่พระสมณโคดม โดยพระอดีตพุทธเป็นคติความเชื่อแบบมหายาน ไม่ใช่เถรวาทซึ่งนับถือพระสมณโคดมเพียงพระองค์เดียว กรมศิลปากรได้ซ่อมแซมบันไดจนแข็งแรง สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภาพจิตกรรมฝาผนังได้
- เที่ยวชมกรุวัดราชบูรณะ ในปรางค์ประธานประกอบไปด้วยห้องรวมทั้งหมด 3 ชั้น ดังนี้
- ชั้นแรกมีภาพจิตกรรมฝาผนังดังที่ได้กล่าวไปแล้วในข้อ 1
- ส่วนชั้น 2 คือกรุหรือห้องเก็บเครื่องทอง
- ชั้น 3 คือ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
กรุวัดราชบูรณะขึ้นชื่อว่ามีของมีค่ามากมายอยู่ภายในนั้น แม้ว่าโจรลักลอบขุดกรุนำของมีค่าออกไปมากมาย แต่เมื่อปี พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้เข้าไปในกรุ ก็ยังพบของมีค่ากว่า 2,000 รายการ เช่น เครื่องราชูปโภคทองคำ พระปรางค์ทองคำ ซึ่งปัจจุบันถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 กลุ่มโจรเข้าไปเจาะพื้นคูหาเรือนธาตุก็ยังพบสมบัติและนำออกมาขายอีกมากมาย เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ตามจับและได้ของมีค่ากลับมา ทั้งเครื่องทอง เครื่องสำริด และอัญมณี ทั้งหมดได้รับการเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาเช่นกัน หลังจากนั้นอีก 48 ปีมีข่าวว่าพระมาลาทองคำจากกรุวัดราชบูรณะไปปรากฏที่พิพิธภัณฑ์สถานในสหรัฐอเมริกา แต่ปรากฏว่ารัฐบาลไทยได้ติดต่อขอรับคืนพระมาลาทองคำหรือไม่ อย่างไร ปัจจุบันกรุวัดราชบูรณะเป็นเพียงห้องโล่ง และเปิดให้ประชาชนเข้าชมความยิ่งใหญ่ของห้องเก็บสมบัติแห่งนี้
- เจดีย์อ้าย เจดีย์ยี่ เดิมเจดีย์อ้ายและเจดีย์ยี่แม้อยู่นอกกำแพงวัด แต่เพราะอยู่ใกล้กันมาก ชาวบ้านจึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัดราชบูรณะ ทว่าเมื่อครั้งปรับปรุงพื้นที่จังหวัดอยุธยา มีการตัดถนนเนรศวร ทำให้เจดีย์และวัดแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง ปัจจุบันผู้ที่เที่ยวชมวัดราชบูรณะ หากจะไปเจดีย์อ้ายและเจดีย์ยี่จะต้องเดินข้ามถนนเนรศวร เจดีย์ดังกล่าวในปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังแต่ก็ยังคงตั้งตระหง่านเป็นอนุสรณ์ให้อนุชนได้ทราบว่าเจ้าอ้ายและเจ้ายี่พระยาสิ้นพระชนม์ตรงนี้
ค่าใช้จ่าย
คนไทย 10 บาท ต่างชาติ 50 บาท
เวลาทำการ
เปิดทุกวัน 08.30-16.30 น. (ส่องไฟชมโบราณสถาน 19.30-21.00 น.)
วิธีการเดินทาง
จากเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยาใช้ถนนเทศบาลบางเมืองอยุธยาไปเจดีย์วัดสามปลื้มใช้ทางออกที่สามสู่ถนนอายุธยา-อ่างทอง (โรจนะ) เลี้ยวขวาสู่ถนนมะขามเรียงและเลี้ยวซ้ายสู่ถนนป่าโทน เข้าวงเวียนกินรีใช้ทางออกที่สามสู่ซอยชีกุน เลี้ยวซ้ายสู่ถนนเนรศวร วัดจะอยู่ทางขวามือ ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร ใช้เวลา 11 นาที